แผนการศึกษาของประเทศไทยนั้น
จวบจนถึงปัจจุบันคือแผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2552 – 2559 แนวทางการกำหนดแผนการศึกษาได้เปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะของสังคม
แต่ยังคงไว้ซึ่งขนบของไทยที่มีอยู่ ทั้งนี้ผู้เขียนขอวิเคราะห์แผนการศึกษา กับ
ทฤษฎีของหลักสูตร
โดยทฤษฎีที่นำมาใช้วิเคราะห์คือ Tyler’s Model ซึ่งตอบคำถาม 4 ข้อคือ
1)Planning การวางแผนว่าจะเอาอะไรมาสอน
(ข้อมูล)
2)Design การกลั่นกรอง
ออกแบบ วัตถุประสงค์ในการจัดการเรียน หรือพัฒนาหลักสูตร
3)Organize
จะจัดการสอนให้กับผู้เรียนอย่างไร (ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักสูตร)
4)Evaluation การประเมินหลักสูตรและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
1.แผนพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ
ฉบับที่ 1 พ.ศ.2504-2509
ได้เน้นหนักด้านการเร่งรัดพัฒนาการศึกษาในทุกๆด้าน ทั้งด้านอาชีวศึกษา
ซึ่งประเทศไทยยังขาดผู้มีความรู้ระดับกลาง และขาดกำลังคนในสาขาวิชาต่างๆ เช่น
วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แพทยศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
เน้นการพัฒนาการศึกษาภาคบังคับให้แก่ประชาชน
สร้างกำลังแรงงานในสายอาชีพ เน้นการผลิตครูอาจารย์
จะเห็นได้ว่าหลักสำคัญในแผนฯ
ฉบับนี้จะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนอย่างทั่วถึง ซึ่งหากวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model จะได้ดังนี้
Planning
|
ได้ศึกษาข้อมูลความต้องการของคนในสังคม
ว่าต้องการอะไร และปัญหาที่พบ เพื่อนำไปกำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมสิ่งนั้นๆ
|
Design
|
นำมาออกแบบ
เพื่อจัดการศึกษาให้อย่างทั่วถึง ผลิตกำลังคนในสาขาและระดับต่างๆที่ขาดแคลน
เน้นการผลิตครู
|
Organize
|
ปรับปรุงขยายการศึกษาขั้นประถมต้น
(ป.1-4)ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นระดับการศึกษาภาคบังคับ จาก 4 ปี เป็น 7 ปี
|
Evaluation
|
ประเมินการใช้แผนฯดังกล่าว
โดยศึกษา และพิจารณางานสาขาต่างๆ ตลอดทั้งปัญหาและอุปสรรค
|
2.แผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ 2 พ.ศ.2510-2514
ในแผนฯ ฉบับนี้ จะสังเกตเห็นได้ว่า ตั้งแต่ชื่อของแผนฯ
ได้มีการเพิ่มในเรื่องของสังคมเข้าไปด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว
ตั้งแต่แผนฯฉบับแรก
ก็คำนึงถึงการจัดการศึกษาเพื่อตอบโจทย์ของความต้องการในสังคมเป็นหลักเช่นเดียวกัน
แผนฯ ฉบับนี้
มุ่งที่จะแก้ไขปัญหาการศึกษา เนื่องจากผลการประเมินแผนฯ ด้านการศึกษาที่ผ่านมา
(แผนฯ1) พบว่า ยังมีเยาวชนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสเข้ารับการศึกษา
ส่วนการผลิตกำลังคนออกมาจากสถาบันอุดมศึกษา ก็ยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม
ดังนั้นจึงทำให้จำนวนบัณฑิตที่ตกงานมีเป็นจำนวนมาก สิ่งนี้อาจต้องย้อนกลับไปดู Planning
และการ Organize เนื่องจาก Planning ของแผนฯ ฉบับ1 ก็ศึกษาจากสังคม ความต้องการของสังคม
หากแต่เมื่อนำมาใช้แล้ว เหตุใดจึงยังมีบัณฑิตที่ตกงาน
เนื่องจากจบในสาขาที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมอีกเป็นจำนวนมาก
แผนนี้ มุ่งปรับปรุงคุณภาพการศึกษา
ทั้งในเรื่องหลักสูตร แบบเรียน อาคารเรียน คุณวุฒิครู
ส่งเสริมการศึกษาในโรงเรียนราษฎร์ มุ่งเน้นคุณภาพการศึกษา และประเด็นสำคัญคือ
การจัดการศึกษาต้องสอดคล้องกับความต้องการกำลังคน
โดยเมื่อนำแผนฯ
นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model จะได้ดังนี้
Planning
|
-ศึกษาข้อมูลของบัณฑิตที่จบ
-ศึกษาความต้องการของคนในสังคม
-นำผลการประเมินจาก
แผนฯ1 มาวิเคราะห์
|
Design
|
ออกแบบเน้นการจัดการศึกษาให้ทั่วถึง
กำหนดเกณฑ์ปรับปรุงคุณภาพการศึกษา
ออกนโยบายจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการกำลังคน
|
Organize
|
-ส่งเสริมการจัดการศึกษาอย่างทั่วถึง
เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาของชาติให้สูงขึ้น
|
Evaluation
|
ประเมินหลักสูตร
ที่ได้ออกแบบไว้ พบว่า ถึงแม้ว่ารัฐจะขยายปริมาณการศึกษาออกไปก็ไม่สามารถสนองความต้องการสังคมได้พอเพียง
เพราะประชากรเพิ่มขึ้น
หลักสูตรวิธีสอนยังไม่สัมพันธ์และเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
|
3.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 3 พ.ศ.2515-2519
ได้มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพและการขยายปริมาณการศึกษา
ตลอดจนการผลิตกำลังคนระดับต่างๆ
ให้สนองความต้องการของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ซึ่งแผนฯ ฉบับนี้ มุ่งพัฒนาจากแผนฯ 2 เนื่องจากการดำเนินการในแผนฯ2 นั้น
ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ดังนั้นในแผนฯ นี้
จึงมุ่งแก้ไขปัญหาจากแผนฯ2 โดยจัดการศึกษาอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์มากที่สุด
ให้มีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานทางการศึกษาต่างๆ
และจะต้องสอดคล้องกับความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย
เน้นหนักในการพัฒนาการศึกษาทุกประเภท ทุกระดับ
โดยเมื่อนำแผนฯ
นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model จะได้ดังนี้
Planning
|
-ศึกษาความต้องการของคนในสังคม
-นำผลการประเมินจาก
แผนฯ2 มาวิเคราะห์
|
Design
|
ออกแบบการจัดการศึกษาโดยมุ่งเน้นถึงการกระจาย
ขยายให้ทั้งประเทศได้มีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง
โดยกำหนดนโยบาย
1.นโยบายการพัฒนาการศึกษาส่วนร่วม
2.นโยบายการพัฒนาการศึกษาแต่ละระดับและประเภท
|
Organize
|
-ขยายการศึกษาระดับประถมต้น
เพื่อให้ประชาชนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง
-ขยายการศึกษาภาคบังคับ
-สนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์
อาชีว และเทคโนโลยี
-ปรับปรุงและขยายการศึกษาในระดับประถม
มัธยมสามัญ มัธยมอาชีพ
-ฝึกหัดครู
-เน้นการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีให้สอดคล้องกับความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคม
-จัดการศึกษาผู้ใหญ่และการศึกษาพิเศษอื่นๆ
-ส่งเสริมการประกอบอาชีพพยาบาล
|
Evaluation
|
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์และปริมาณบัณฑิตที่ได้ทำงาน
|
4.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 4 พ.ศ.2520-2524 ได้ยึดถือเอาความมั่นคงปลอดภัยของชาติเป็นหลักเบื้องต้นในการพัฒนา
เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมของประเทศอย่างมาก
ดังนั้น นโยบายการจัดการศึกษาจึงต้องมุ่งสร้างความเป็นธรรมในสังคม
ลดความเหลื่อมล้ำของบุคคลในทางเศรษฐกิจ
โดยเมื่อนำแผนฯ
นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model จะได้ดังนี้
Planning
|
ศึกษาพื้นฐานทางสังคม
เศรษฐกิจของชาติ เพื่อนำมากำหนดนโยบายการศึกษา
|
Design
|
กำหนดนโยบายการศึกษาโดยมุ่งสร้างความเป็นธรรมในสังคม
ลดความเหลื่อมล้ำของบุคคลในทางเศรษฐกิจ
คำนึงถึงคนส่วนใหญ่ในชาติและผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกลทุรกันดาร
|
Organize
|
-ส่งเสริมการจัดการศึกษาอย่างทั่วถึง
-ส่งเสริมการศึกษาพิเศษ
การศึกษาสงเคราะห์ และงานการศึกษาอื่นๆ
(แผนฯ1-3 ไม่ได้จัด)
|
Evaluation
|
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์และปริมาณบัณฑิตที่ได้ทำงาน
|
5.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 5 พ.ศ.2525-2529
เน้นเร่งรัดพัฒนาการศึกษาทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ
มุ่งเสริมสร้างบุคคลให้มีความรู้ ความคิด และความสามารถในการประกอบอาชีพ
มีจริยธรรม คุณธรรม ตลอดจนมีพลานามัยสมบูรณ์
โดยเมื่อนำแผนฯ
นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model จะได้ดังนี้
Planning
|
ศึกษาความสัมพันธ์ของเศรษฐกิจ
สังคม และการศึกษา เพื่อนำมากำหนดเนื้อหา วัตถุประสงค์ในการศึกษา
|
Design
|
ออกแบบจัดการศึกษาให้เสมอภาค
|
Organize
|
-ส่งเสริมการศึกษาทุกระดับ
ทุกประเภท
-ปรับปรุงโครงสร้างระบบบริหารการศึกษาและจัดการศึกษาทุกระดับ
-จัดและส่งเสริมให้มีความเสมอภาคทางการศึกษา
-ส่งเสริมการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเอกชน
|
Evaluation
|
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์และปริมาณบัณฑิตที่ได้ทำงาน
|
6.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 6 พ.ศ.2530-2534
มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคคลให้มีความรู้ ความคิด คุณธรรม พลานามัยที่สมบูรณ์
มีทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
และเป็นกำลังในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
แผนฯฉบับนี้แตกต่างจากแผนฯฉบับอื่นๆ
โดยมีการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาในด้านต่างๆไว้อย่างมากมาย ได้แก่
การศึกษาเพื่อชีวิตและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ความเสมอภาคทางการศึกษา
การศึกษาตลอดชีวิต คุณภาพการศึกษา การบริหารการศึกษา
การศึกษาเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษากับการวิจัย
การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการบริการทางวิชาการ และการระดมสรรพกำลัง
ซึ่งผู้เขียนคิดว่า
การที่แผนฯนี้แตกต่างจากแผนฯอื่นๆ
เนื่องจากได้มีการนำปัญหาข้อบกพร่องในด้านต่างๆมาวิเคราะห์ จึงจะเห็นได้ว่า
ในแผนฯนี้ ได้แตกย่อยนโยบายต่างๆ ซึ่งเคยอยู่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายใหญ่ในแผนฯที่ผ่านๆมา
โดยตอนนี้กลายมาเป็นนโยบายหลัก ในแผนฯฉบับนี้
โดยเมื่อนำแผนฯ
นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model จะได้ดังนี้
Planning
|
-ศึกษาความสัมพันธ์ของเศรษฐกิจ
สังคม และการศึกษา เพื่อนำมากำหนดเนื้อหา วัตถุประสงค์ในการศึกษา
-ศึกษาปัญหาและข้อบกพร่องในแผนฯที่ผ่านๆมา
เพื่อนำมาเสริมสร้างจุดแข็ง กลบจุดอ่อน โดยดึงนโยบายย่อย มาเป็นนโยบายหลัก
|
Design
|
กำหนดนโยบายต่างๆ
ได้แก่ การศึกษาเพื่อชีวิตและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ความเสมอภาคทางการศึกษา
การศึกษาตลอดชีวิต คุณภาพการศึกษา การบริหารการศึกษา
การศึกษาเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษากับการวิจัย
การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการบริการทางวิชาการ และการระดมสรรพกำลัง
|
Organize
|
-เร่งรัดการจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับความต้องการทางการศึกษา
-เพิ่มความเสมอภาคในโอกาสทางการศึกษา
โดย ปรับปรุงระบบการรับเข้าศึกษา พัฒนารูปแบบและวิธีการเรียนการสอน เป็นต้น
-จัดให้มีการประสานงานระหว่างการจัดการศึกษาในระบบและนอกระบบ
-พัฒนาครู
/ อาจารย์ ให้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในวิธีการสอนตามหลักสูตร
-ปรับปรุงโครงสร้างและระบบบริหารการศึกษาให้เอื้อต่อการกระจายการบริหารและวางแผนไปสู่ส่วนภูมิภาค
|
Evaluation
|
ประเมินจากการที่ผู้เรียนได้เรียนหนังสือมากขึ้น
มีการกระจายการบริหารไปสู่ส่วนภูมิภาคมากขึ้น
|
7.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 7 พ.ศ.2535-2539
เน้นให้พลเมืองมีคุณธรรม จริยธรรม ปัญญา และมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์
มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ
สามารถพึ่งตนเองและดำรงชีวิตได้อย่างเป็นสุขภายใต้การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
โดยในแผนฯ ฉบับนี้ ไม่ได้แตกต่างจากแผนฯ6 มากนัก น่าจะเป็นการดำเนินการตามแผนฯ6
เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ในการพัฒนามากขึ้น
สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากแผนฯ6 อย่างเห็นได้ชัด คือการศึกษาเพื่อพัฒนาบุคลากร
ในแผนนี้จะเน้นการศึกษาเพื่อพัฒนาบุคลากร การประกอบอาชีพ ต่างๆ
เน้นการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ การศึกษาเพื่ออาชีพ
รวมไปถึงระบบสารสนเทศเพื่อการศึกษาด้วย
โดยเมื่อนำแผนฯ
นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model จะได้ดังนี้
Planning
|
-ศึกษาข้อบกพร่อง
จุดอ่อนของแผนฯ6 เพื่อนำมาเสริมสร้าง และพัฒนาให้ผู้เรียนมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
-ศึกษาความต้องการของสังคม
และการพัฒนาเศรษฐกิจ
|
Design
|
ออกแบบการศึกษา
เพื่อพัฒนาบุคลากร การประกอบอาชีพ การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้
การศึกษาเพื่ออาชีพ
|
Organize
|
-ขยายการศึกษาในรูปแบบต่างๆ
-ให้ทุนการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส
-เสริมสร้างและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอน
-จัดให้มีกลไกสำหรับเชื่อมโยงระหว่างสถาบันการศึกษาและสถานประกอบการ
-จัดเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เหมาะสมให้กับหน่วยงานที่ทำหน้าที่ด้านระบบข้อมูลและสารสนเทศ
|
Evaluation
|
-ประเมินโดยดูจากผลตอบรับ
จากสถานประกอบการ , งานวิจัยต่างๆ , ดูจากผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
|
8.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 8 พ.ศ.2540-2544
ในแผนฯนี้ จุดเน้นไม่ต่างจากแผนที่ 6-7 นัก
แต่มีข้อแตกต่างคือ
การเน้นสร้างความก้าวหน้าและมั่นคงของเศรษฐกิจไทยในประชาคมโลกบนฐานแห่งความเป็นไทย
โดยเมื่อนำแผนฯ นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model
จะได้ดังนี้
Planning
|
-ศึกษาความต้องการของสังคม
และการพัฒนาเศรษฐกิจ
-ศึกษาข้อบกพร่อง
จุดอ่อนของแผนฯ7 เพื่อนำมาเสริมสร้าง และพัฒนาให้ผู้เรียนมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
|
Design
|
ออกแบบการศึกษา
โดยคำนึงถึงการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
จึงมุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ในส่วนของอาชีพมากขึ้น
|
Organize
|
-ปฏิรูประบบการเรียนการสอน
มุ่งปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอนให้เอื้อต่อการพัฒนาขีดความสามารถของผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพ
-ปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครู
-ปฏิรูประบบการบริหารและการจัดการการศึกษา
|
Evaluation
|
-ประเมินโดยดูจากผลตอบรับ
จากสถานประกอบการ , งานวิจัยต่างๆ , ดูจากผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
|
9.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ฉบับที่ 9 พ.ศ.2545-2549
มุ่งเน้นให้ผู้เรียน เก่ง ดี มีสุข โดยพัฒนาคนอย่างรอบด้าน
สร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมคุณธรรม ภูมิปัญญา และการเรียนรู้
พัฒนาสภาพแวดล้อมของสังคม
สามารถนำแผนฯ นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model
จะได้ดังนี้
Planning
|
ศึกษาสภาพเศรษฐกิจ
สังคม เพื่อนำมาสร้างแผนฯ ฉบับนี้
|
Design
|
ออกแบบการศึกษา
โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียน เก่ง ดี มีสุข
|
Organize
|
-ปลูกฝังเสริมสร้างศีลธรรม
คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์
-ส่งเสริมการวิจัยและการเรียนรู้ของสังคมไทย
-พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและการพัฒนาประเทศ
|
Evaluation
|
-ประเมินโดยดูจากผลตอบรับ
จากสถานประกอบการ , งานวิจัยต่างๆ , ดูจากผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
|
10.แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 10 พ.ศ.2552-2559
สามารถนำแผนฯ นี้ มาวิเคราะห์ตาม Tyler’s Model
จะได้ดังนี้
Planning
|
ศึกษาสถานการณ์
การเปลี่ยนแปลงของสังคม กฎหมายและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
ศึกษาผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมา
|
Design
|
ออกแบบการศึกษา
โดยยึดหลักปรัชญาพอเพียง ยึดทางสายกลางอยู่บนพื้นฐานของความสมดุล พอดี
รู้จักพอประมาณ มีความรอบรู้เท่าทันโลก เพื่อมุ่งให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
|
Organize
|
-สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ
-สร้างความเชื่อมโยงระหว่างแผนการศึกษา
กับ นโยบายของรัฐบาล
-พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ
|
Evaluation
|
-ติดตามความก้าวหน้า
ประเมินผลความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
-เสริมสร้างกลไกการตรวจสอบของภาคประชาชนให้เข้มแข็ง
-สร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูล
เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถติดตามประเมินผลได้
|
จากการศึกษาแผนการศึกษาแห่งชาติ
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทำให้มองเห็นถึงนโยบายที่แตกต่างกันไป
โดยในช่วงแรกจะเน้นการกระจายการศึกษา ความเสมอภาคทางการศึกษา
โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง แต่มาถึงแผนฯฉบับที่ 6 เป็นต้นมา จะเน้นการเสริมสร้างอาชีพมากขึ้น โดยจะเห็นได้ว่า
เน้นการนำความรู้ไปใช้มากกว่าการที่เรียนเพื่อรู้อย่างเดียว หากแต่ต้องเป็นการเรียนรู้
เพื่อนำไปใช้ชีวิต เพื่อนำไปประกอบอาชีพได้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น